
นายกเมืองป่าตอง ควง รองอ้อม”- รองชัย และรองแบงก์ แถลงผลงานในรอบ 4 ปี สร้างป่าตองเป็น “เมืองแห่งความสุขและเมืองน่าอยู่” พัฒนาทั้ง โครงสร้างพื้นฐาน แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำเสีย ให้ประชาชนได้ใช้น้ำประปาราคาถูก จัดการขยะไม่ให้ล้นเมือง เพิ่มความปลอดภัย ผลักดันโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน ปรับปรุงภูมิทัศน์และทางเท้าอีก 5 สาย พร้อมพัฒนาและยกระดับการศึกษาสำหรับลูกหลานชาวป่าตอง
วันนี้ ( 24 ก.พ.) นายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พร้อม นางลลิตา มณีศรี นายศณกร กี่สิ้น และ นายอาวุธ หนูเชต รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ร่วมแถลงผลงานในรอบ 4 ปี ที่นั่งบริหารเทศบาลเมืองป่าตอง ว่า หลังจากได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พอดี ทำให้ 2 ปีแรก ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะเทศบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้แค่ 10% ตามทึ่รัฐบาลกำหนด ทำให้เทศบาลไม่มีงบประมาณที่จะไปพัฒนามากนัก แต่ในช่วง 2 ปีหลัง ทางเทศบาลได้ผลักดันและพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อชาวป่าตองไปกว่า 60โครงการ เช่น
โครงการปรับผิวจราจรถนนทวีวงศ์ ซึ่งเป็นถนนเรียบหาดป่าตอง ที่เป็นหลุมเป็นบ่อจากโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินให้เป็นถนนที่สวยงามรวมไปถึงฟุตบาท โครงการจัดทำเต็นท์ชั่วคราวเพื่อจัดระเบียบผู้ประกอบการชายหาดป่าตอง สร้างห้องน้ำติดแอร์เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว โครงการปรับปรุงผิวจราจรถนน 50 ปี โครงการปรับปรุงผิวจราจรถนนเลียบคลองบางวัด โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณถนนทวีวงศ์ ปรับปรุงทางเท้า ทำให้ป่าตองเป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ ติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกโซนเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องของความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเมืองท่องเที่ยว
นอกจากนั้น ยังได้ผลักดันให้ป่าตองเป็นเมืองที่มีความสุข โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตได้เข้าร่วม เป็นการส่างมอบความสุขให้กับทุกคน

ส่วนเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย โครงการดูแลบำรุงรักษาระบบรวบระบบบำบัดน้ำเสีย และปัญหาน้ำท่วม นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่าเรื่องนี้ตนให้ความสำคัญมาก ซึ่งในส่วนของน้ำเสียได้มีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียเกือบครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว ขณะนี้ยังมีเพียงบางจุดเท่านั้นที่ยังติดขัดในเรื่องของการขอใช้พื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ของแขวงการทาง แต่ตอนนี้ก็ได้รับอนุมัติแล้ว ถ้าดำเนินการเสร็จก็จะแก้ปัญหาน้ำเสียได้ทั้งระบบ
ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วม ในปีที่ผ่านมาป่าตองไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะตนให้ความสำคัญเรื่องนี้ มีการขุดลอกคลองทั้งหมด ทำให้น้ำระบายลงคลองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังได้เร่งรัดโครงการก่อสร้างประตูน้ำของกรมโยธิการจนแล้วเสร็จ หลังมีการก่อสร้างล่าช้ามานานถึง 8 ปี
และโครงการที่ตนผลักดันสำเร็จอีกโครงการ ซึ่งขณะนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว กว่า 120 ล้านบาท และเทศบาลจ่ายสมทบอีก 80 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการนำสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลลงใต้ดินในถนนอีก 5 สาย ซึ่งได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว รอนำเข้าสภาเพื่อขอใช้งบประมาณในส่วนที่เทศบาลจะต้องสมทบ ประกอบด้วย ถนนหน้าโรงแรมดวงจิตร รีสอร์ท หน้าโรงแรมฮอลิเดย์อิน ซอยบางลา ถนนหน้าโรงเรียนบ้านไสน้ำเย็น และถนนสายสำนักสงฆ์แหลมเพชร ซึ่งขณะนี้มีการออกแบบแล้วเสร็จ

ด้าน นางลลิตา มณีศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้กล่าวถึงในส่วนของเรื่องการศึกษา ว่า เทศบาลได้ให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นไป โดยเฉพาะการเรียนการสอน โดยจัดให้มีห้องเรียน EP ตั้งแต่อนุบาล มีการพัฒนาบุคลลกร เพื่อให้การเรียนการสอนของเด็กโรงเรียนในเขตเทศบาลดีขึ้น
ส่วนปัญหาเรื่องของน้ำประปา ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านบางส่วนต้องใช้น้ำ RO ของทางเทศบาล ที่มีราคาสูงถึงคิวละ 45 บาท เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระให้กับชาวบ้าน เนื่องจากท่อส่งน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคส่งไปไม่ถึงหรือไม่บางจุดก็เกิดการชำรุด แต่ขณะนี้ทางเทศบาลได้ประสานกับทางการประปาส่วนภูมิภาคแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้แล้วบางส่วนไปแล้ว ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านป่าตองสามารถมีน้ำประปาใช้กว่า 120 จุด ทำให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำในราคาที่ถูกลง ส่วนน้ำ RO นั้น กันไว้เป็นน้ำสำรองในช่วงหน้าแล้งและช่วงขาดแคลนน้ำ และนอกจากนี้เทศบาลยังมีแผนที่จะปรับปรุงท่อประปาในพื้นที่ให้ดีขึ้นโดยจะเป็นตัวกลางในการประสานงาน

ขณะที่ นายษณกร กี่สิ้น รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวป่าตองและนักท่องเที่ยวนั้น ทางเทศบาลฯได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น เพราะป่าตองเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ได้มีการจัดทำโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ให้ครอบคลุมพื้นที่เมืองป่าตอง จากเดิมที่กล้อง cctv มีอยู่ประมาณ 120 กล้อง ได้มีการจัดตั้งงบประมาณติดตั้งเพิ่มเป็น 300 กว่ากล้อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมไปถึงมีการจัดให้มีไลฟ์การ์ดดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงจัดให้มี Free wifi บริเวณชายหาด เป็นต้น

นายอาวุธ หนูเขต รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ระบุว่า เรื่องการดูแลทรัพยากรธรรชาติและสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเมืองป่าตอง โดยเฉพาะในเรื่องของขยะที่สูงขึ้นมากในแต่ละวันโดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นที่วันละ 200 ตัน ทำให้การจัดเก็บอาจจะมีปัญหาบ้างในการขนขยะไปยังเตาเผาที่อยู่ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ ถึง 3 ชั่วโมง แต่ทางเทศบาลได้บริหารจัดการไม่ให้มีขยะตกค้างในพื้นที่ป่าตอง ไม่ให้เกิดปัญหาขยะล้นเมือง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวได้