แท็กซี่ ท่าเรือรัษฎา รวมตัวเรียกร้อง แก้ปัญหาการรับผู้โดยสาร ขอให้ยกเลิกรถนอก ที่ขึ้นทะเบียน กว่า 200 คัน ยกเลิกเรียกเก็บค่าเที่ยว 20% สุดทาย “นายกเรวัต.” เข้าเจรจา จบสวย ได้ข้อยุติตามข้อเรียกร้อง
วันนี้ (1 ธ.ค.66) ที่บริเวณปากทางเข้าท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ประกอบการถรับจ้างสาธารณะบริเวณหน้าท่าเรือรัษฎา จำนวนหนึ่ง รวมตัวกันชูป้ายข้อความต่าง ๆ เช่น ซีทราน ต้องยกเลิกรถสองร้อยกว่าคันด่วน คืน เคาน์เตอร์ให้กับแท็กซี่ท่าเรือด่วน, เรียกร้องขอคืนท่าเรือให้ อบจ.ภูเก็ตด่วน, บ.ซีทราน ร่วมกับนายทุนรถ และ เจ้าหน้าที่ อบจ.บางคน เอาเปรียบชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำในท่าเรือรัษฎา, บ.ซีทรานเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ร่วมนายทุนต่างถิ่นเอาเปรียบชาวบ้านในพื้นที่, แท็กซี่ท่าเรือรัษฎาเป็นชาวบ้านในพื้นที่ตำบลรัษฎาทั้งหมด เป็นต้น โดยกลุ่มผู้ร้องเรียน บอกว่า การรวมตัวในครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมในการประกอบอาชีพ
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากบริษัท ซีทราน ทราเวิล จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานในการบริหารท่าเทียบเรือรัษฎาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ได้นำเอาระบบเทคโนโลยีมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อตรวจนับและคัดแยกผู้โดยสาร โดยเบื้องต้นให้ผู้ที่ต้องการนำรถรับ-ส่งผู้โดยสารมาลงทะเบียนในระบบ มีแท็กซี่จากนอกพื้นที่ลงทะเบียนกว่า 250 ราย ส่วนกลุ่มหน้าท่าเรือฯ ไม่ลง เพราะมองว่าไม่เป็นธรรม ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยของตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ทั้งในและนอกเครื่องแบบ
สำหรับการเรียกร้องขอความเป็นธรรมของผู้ประกอบการฯ เนื่องจากการมองว่า ลงทะเบียนดังกล่าว จะส่งผลกระทบกับการประกอบอาชีพ เพราะจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นแต่จำนวนผู้โดยสารมีจำกัด จึงขอให้ยกเลิกการลงทะเบียนของกลุ่มรถแท็กซี่จากภายนอกดังกล่าว เพราะรถแท็กซี่หน้าท่าเรือรัษฎาที่มีอยู่ 50 – 70 คัน เพียงพอรับส่งผู้โดยสารอยู่แล้ว เนื่องจากผู้โดยสารที่ลงมาจากเรือประมาณ 90% จะมีรถรับส่งอยู่แล้ว จึงทำให้เหลือผู้โดยสารที่หารถเองเพียง 10% และขอให้สิทธิทำมาหากินที่ชาวบ้านมีอยู่เดิม ต้องการให้บริษัทฯ เห็นแก่ปากท้องของพี่น้องชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่บริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 หรือกว่า 20 ปี และขอคืนเคาน์เตอร์บริการในท่าเรือ รวมทั้งให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าใช้จ่าย 20% จากรถที่เข้าไปรับส่งด้วย\
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ นายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ต ทราบเรื่อง ก็ได้เดินทางลงพื้นที่ มาพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ดังกล่าว เพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการ จากนั้นได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต, ตัวแทนจากเทศบาลตำบลรัษฎา, หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ผู้บริหารบริษัทซีทราน ทราเวิล จำกัด เพื่อหาทางออก ร่วมกัน
หลังได้ข้อสรุป นายเรวัต ได้มาชี้แจงกับทางกลุ่มผู้ประกอบการโดยได้ข้อสรุป ว่า จะมีการยกเลิกรถที่ขึ้นทะเบียนไว้กับบริษัท จำนวน 200 กว่าคัน ที่ให้มาลงทะเบียนก่อนหน้านี้ ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย 20% จากรถรับจ้างที่เข้าไปรับส่งผู้โดยสารในท่าเรือ ในแต่ละเที่ว และเปลี่ยนมาเก็บเพียง 50 บาท ต่อเที่ยว นอกจากนั้นในส่วนของอัตราค่าบริการจะต้องเป็นมาตรฐาน
นายเรวัต กล่าวว่า การมาเจราจรหาทางออกในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องจากภาพลักษณ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะกว่าจะได้นักท่องเที่ยวกลับมาค่อนข้างลำบาก หลังจากนี้ขอให้ผู้ขับขี่รถรับจ้างหน้าท่าเรือรัษฎาทุกคนทำการลงทะเบียนเพื่อเป็นข้อมูลและให้นำมาส่งกับตน
ด้านนายสิทธิพงศ์ ปิลวาสน์ ตัวแทนจากบริษัท รัษฎาวีไอพีคอรัล กรุ๊ป ซึ่งให้บริการรถแท็กซี่รับส่งนักท่องเที่ยวคิวหน้าท่าเรือรัษฎา กล่าวว่า จากข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประกอบการที่เสนอผ่านทางนายก อบจ.ภูเก็ต เพื่อนำไปหารือกับทางบริษัทฯ ที่ได้รับสัมปทาน ได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ ทั้งเรื่อง ยกเลิกการลงทะเบียนของรถนอกพื้นที่ที่ลงทะเบียนมากว่า 200 คัน , ให้รถที่ให้บริการคิวหน้าท่าเรือรัษฎาทุกคนมาลงเบียนและจัดส่งรายชื่อให้กับนายก อบจ.ภูเก็ต,
ยกเลิกการจัดเก็บค่าใช้จ่าย 20% แต่ขอเก็บคันละ 50 บาทแทน และให้ตั้งอัตราค่าบริการรับส่งใหม่ที่ได้มาตรฐาน เช่น จากท่าเรือรัษฎาไปส่งเจดับบลิวไม้ขาวเดิม 1,500 บ. ลดลงเหลือ 1,000 บ เป็นต้น ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ
