ทต.กะรน จับมือ อบจ.ภูเก็ต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการความร่วมมือ หามาตรการป้องกัน ดินจากเทือกเขานาคเกิดถล่มซ้ำ หลังชาวบ้านยังผวาทุกครั้งที่ฝนตกหนัก
จากกรณีเกิดเหตุดินโคลน และหิน หินจากเทือกเขานาคเกิด สไลด์ลงมาทับห้องเช้า และบ้านเรือนประชาชนจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 19 ราย และ ห้องเช้า รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความหวาดผวาและตื่นตระหนก ให้กับคนในพื้นที่ ต.กะรน ที่เคยได้รับผลกระทบ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกหนัก พบว่ายังมีน้ำสีโคลน ไหลลงมาบริเวณจุดที่ดินสไลด์จำนวนมาก
ดังนั้นเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ วันนี้ (10 กันยายน 2567 ) นายทิวัตถ์ สีดอกบวบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ เรือเอกเจด็จ วิชรศรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลกะรน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงสำรวจพื้นที่บริเวณเขานาคเกิด เพื่อหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้น้ำจากเทือกเขานาคเกิดไหลลงไปด้านล่างจนเป็นเหตุให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหว และสไลด์ซ้ำรอยเดิม
อย่างไรก็ตามในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบ จุดที่มีการปรับพื้นที่เป็นลานจอดรถใหม่ของ “พระใหญ่” ที่ทางป่าไม้ ได้กันพื้นที่ไว้ เนื่องจากรุกปื้นที่ของป่าไม้ เพื่อหามาตรการในการปรับเปลี่ยนทางน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาน้ำหลากและดินสไลด์ลงสู่บ้านเรือนของประชาชน บริเวณเชิงเขาทั้งฝั่ง ต.ฉลอง และ ต.กะรน
ซึ่งในการดำเนินการนั้นจะต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาสำรวจแนวการไหลของน้ำ ที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบกับชาวบ้านในพื้นที่เชิงเขาทั้งหมด
ขณะที่บริเวณพระใหญ่ ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวบน แม้ว่าจะมีการปิดทางเข้า-ออก พระใหญ่ ไปแล้ว เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรอกรมป่าไม้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ จำนวน 15 ไร่ เพื่อก่อสร้างฐานประดิษฐ์สถานพระพุทธรูป พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนา
