
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสุมทรอินเดียและทะเลอันดามัน ทดแทนของเดิม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวถึงความพร้อมในระบบแจ้งเตือนภัยสึนามิ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 15 พ.ย.) ที่ท่าเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานในการปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กงสุลจากประเทศต่างๆ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในครั้งนี้ เป็นการวางทดแทนทุ่นเดิมในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ทั้งนี้การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิถือเป็นกลไกลหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยสึนามิ เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระบบเตือนภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใต้ทะเลในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ทาให้เกิดคลื่นสึนามิสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชน และสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งรอบมหาสมุทรอินเดียเป็นอย่างมาก ซึ่งภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการป้องกันและกำหนดมาตรการลดผลกระทบจากคลื่นสึนามิให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาล โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบวิเคราะห์คาดการณ์คลื่นสึนามิและระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) จึงได้ติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ ไว้ 2 จุด จุดที่ 1 ติดตั้งไว้ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร และจุดที่ 2 ติดตั้งไว้ในทะเลอันดามันห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กิโลเมตร ซึ่งการดำเนินการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในครั้งนี้ เป็นการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิชุดใหม่ ทดแทนทุ่นเดิม ทั้งในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน เพื่อให้ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิมีความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการส่งต่อข้อมูลไปยังระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศ

“การวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามัน ถือเป็นกลไกในการเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าให้กับประชาชน เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวลือและได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งให้ประชาชสามารถเตรียมความพร้อมในการอพยพ หนีภัยสึนามิได้อย่างทันท่วงที และเป็นการสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิตของประชาชน ซึ่งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิที่ติดตั้งในครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ถ้าหากสามารถช่วยลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ขอฝากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรต่าง ๆ สถานประกอบการ อาสาสมัคร เครือข่ายชาวประมง และประชาชนช่วยสอดส่องดูแลรักษาระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิ รวมถึงหอเตือนภัยและอุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายบุญธรรมกล่าว

สำหรับการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ ทั้ง 2 ตัว ในครั้งนี้ เรือจะออกจากท่าเรือน้าลึก จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 15 พ.ย. 2565 เวลา 15.00 น. และจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในวันที่ 28 พ.ย. 2565 รวม 14 วัน ซึ่งการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในประเทศไทย ได้ดำเนินการติดตั้งมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2549 ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ในการแจ้งเตือนภัยสึนามิกับองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) แ ล ะ ได้รับ ม อ บ ทุ่น ต ร ว จ วัด ค ลื่น สึน ามิจ า ก NOAA ประกอบด้วย

ทุ่นลอยพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Surface Buoy) และชุดอุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเล (Bottom Pressure Recorder : BPR) โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร ซึ่งการทางานของทุ่นจะติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้าและส่งผ่านสัญญาณเสียงไปสู่ทุ่นลอยและส่งข้อมูลไปยังดาวเทียม จากนั้นมีการส่งสัญญาณมาที่สถานีรับสัญญาณภาคพื้นดิน และประมวลผลร่วมกับทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิของนานาประเทศ แล้วส่งข้อมูลกลับมายังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน
ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2560 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 2 ในทะเลอันดามัน โดยติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 340 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 จุด มีการบารุงรักษาตามมาตรฐานของผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 2 ปี เพื่อให้ทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิมีความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ปภ. ยังได้บูรณาการด้านการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปอย่างเป็นระบบ มีหน่วยเผชิญเหตุที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีหน่วยปฏิบัติระดับพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12สงขลา ดูแลพื้นที่จังหวัดสตูล และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต ดูแลพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็กระบี่ และตรัง ที่มีความพร้อมในการบริหารจัดการภัยสึนามิในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างเนื่อง การติดตั้งทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียและทะเลอันดามันถือเป็นกลไกลหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากภัยสึนามิ เพื่อให้สามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้หน่วยงานต่างที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย และประชาชนในภูมิภาครอบมหาสมุทรอินเดีย มีการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยสึนามิและอพยพ

อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังกล่าวถึงความพร้อมของหอเตือนภัยในฝั่งอันดามันทั้ง 6 จังหวัดว่าหอเตือนภัยที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทั่วทั้งอันดามันนั้น ทางกรมฯได้มีการทดสอบระบบทุกวันพุธ หากหอใดมีปัญหาไม่สามารถส่งสัญญาณได้ก็จะมีการซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง